ขออนุญาติเล่ารายละเอียดของเราประกอบด้วยนะคะ เนื่องจากอยากให้ทราบว่า เราคบหาและมีความสัมพันธ์กันในเรื่องใดบ้างค่ะ
เราและแฟนเป็นเพื่อนสมัยเรียนด้วยกันมาก่อน ปัจจุบันก็วัยจะ30แล้วล่ะค่ะ ตัดสินใจคบกันมา6ปีแล้ว ทำงานร่วมกัน เรียกว่าเจอหน้ากันแทบจะ24ชม.มาตลอด1-2ปี (ก่อนหน้านี้ไม่ได้พักด้วยกันค่ะ แยกกันอยู่ที่บ้านครอบครัวของตัวเอง) แต่ตอนนี้ งานเติบโตสูงมาก (เราทำอาชีพค้าขายด้วยกันค่ะ) ลงขายวันละหลายๆที่ หลายๆสาขา แทบจะไม่ได้จ้างใคร เพราะพึ่งจะเริ่มขยายตัว เลยต้องวางระบบเองก่อน วันๆนึงจึงทำงานวันละประมาณ 16-22ชม.กันทั้งคู่ สลับมากบ้าง น้อยบ้าง จะได้พักผ่อนเต็มที่ก็ทุกๆ5-8วัน ทำให้ทางบ้านของเรายอมให้เค้าสามารถมาพักอยู่ด้วยได้ โดยที่ไม่ได้อยู่ในห้องส่วนตัวนะคะ นอนในห้องรับแขก โดยเราก็ลงมานอนที่โซฟา และแฟนนอนที่เก้าอี้พับยาวๆ เรียกว่าเราอยากให้ทางบ้านสบายใจค่ะ เพราะห้องรับแขกมีป้านอนอยู่ด้วยเหมือนกัน เราไม่อยากให้รู้สึกว่า เรานอนห้องส่วนตัวของเรา แล้วแฟนจะย่องเข้าหาเมื่อไหร่ก็ได้ เราจึงตัดสินใจนอนในที่สาธารณะของบ้าน โดยมีระยะจุดนอนห่างกันประมาณ3-5เมตรค่ะ
ฟังแล้วดูเหมือนว่าทุกอย่างก็อยู่ในขอบเขตดีค่ะ แต่จริงๆแล้วก็มีเรื่องที่เราไม่สบายใจแต่ก็ไม่ได้ถึงกับเป็นทุกข์มากค่ะ นั่นก็คือ จริงๆแล้วเราจดทะเบียนสมรสกับแฟนมานานถึง5ปีแล้วค่ะ ซึ่งวันนี้ก็เป็นวันครบรอบพอดี เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราปิดบังทุกคนไว้ และก็รู้สึกเสียใจมาจนถึงทุกวันนี้ เรื่องนี้เอง ทำให้เราคิดเหมือนกันว่า อาจจะมีส่วนทำให้แฟนเห็นคุณค่าของเราน้อยกว่าที่คู่สมรสทั่วไปควรจะรู้สึกต่อกัน เนื่องจากเราทั้งคู่ ชวนกันจนทะเบียนสมรสกันเอง ตั้งแต่ปีแรกที่คบกัน หลังจากจดทะเบียน เราก็เริ่มทำงานร่วมกันมาตลอด นั่นก็คือค้าขาย พึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากก็ประมาณ20เดือนที่ผ่านมาค่ะ โดยเงินทั้งหมด แฟนให้เราเป็นคนช่วยดูแล เค้ามีเงินติดตัวทั้งหมด ทั้งเงินสดและในบัญชีเงินฝากแค่ประมาณ5หมื่นบาท ในขณะที่เรามีบัญชีประมาณ7บัญชีธนาคาร ก็มีเงินหมุนเข้า-ออกตลอดเวลา เรียกได้ว่าเค้าไว้ใจเราเป็นอย่างมากค่ะ และเราก็ไม่เคยมีประวัติแอบไปใช้อะไรส่วนตัวหรือไม่ขอเลย เพราะยังไงเราก็อยู่ด้วยกันแทบจะตลอด24ชม.อยู่แล้ว จะใช้อะไรก็รู้กันหมด (แต่เราก็แอบรู้มาว่าเค้ามีแอบเก็บๆไว้ส่วนตัวประมาณหลักพันค่ะ เนื่องจากเราเป็นคนทำบัญชีละเอียดเสมอ ซึ่งเงินก้อนนั้น เค้าก็ไม่เคยเอาไปทำอะไรไม่ดีให้เราจับได้หรือรับรู้เลยนะคะ จะมีก็แต่ เค้าอยากซื้อลำโพงเล็กๆซักอัน หรืออยากซื้ออะไรโดยที่ไม่ต้องขอเราบ่อยๆ) เรื่องที่เค้าให้เราดูแลเรื่องเงิน เราก็รู้สึกดีใจมาตลอดนะคะ เพราะรู้สึกว่าเค้าให้เกียรติเราดี เราก็พยายามบริหารเงินให้ดีที่สุด ควบคุมค่าใช้จ่ายต่างๆ ชำระค่าใช้บริการรายเดือนของเราในทุกๆเรื่อง ไม่ว่าจะรถ ประกัน ให้พ่อของเรา ให้แม่ของแฟน ซื้อสินค้า จองบูธขายของ เราพยายามทำเองหมด โดยเค้าจะเป็นฝ่ายช่วยขายของเป็นหลัก ส่วนเรามีหน้าที่ไปช่วยขายเหมือนกัน เพราะเราเป็นผู้ริเริ่มการขายของมาก่อนเค้าค่ะ แล้วก็ช่วยหาที่ขาย ช่วยเตือนความจำว่าต้องติดต่อใคร ที่ไหน อย่างไรบ้าง เราแบ่งหน้าที่กันได้ค่อนข้างโอเคค่ะ เราทั้งคู่ต่างพอใจกับหน้าที่ของเราค่ะ
ปัญหาที่เกิดขึ้น และเรารู้สึกแย่กับมันมากๆก็คือ เมื่อประมาณ4เดือนที่แล้ว อยู่ๆก็มี มีผู้หญิงโทรไลน์เข้ามาที่เครื่องของแฟนค่ะ ซึ่งเรากับแฟนเราโทรศัพท์ของอีกฝ่ายได้เสมอ เพราะทุกเบอร์ที่มี เอาไว้ติดต่องานหมดเลยค่ะ เราก็เลยเป็นคนกดรับ และแปลกใจมาก เพราะไม่เคยมีใครโทรไลน์หาแฟนเราเลยซักครั้ง ตั้งแต่คบกันมา พอเรารับปุ๊บ เค้าก็คุยๆด้วยประมาณ2ประโยคค่ะ (เราจำไม่ค่อยได้ แต่ก็ประมาณว่า เรียกชื่อแฟนเราเนี่ยแหละค่ะ) เราบอกว่า "รอซักครู่นะคะ" และส่งให้แฟน แฟนเราตกใจมากเลย แถมรีบบอกว่า "แฟนรับน่ะ" แล้วก็ทำเหมือนใจดีสู้เสือนะคะ ทำเป็นคุยๆด้วย และมีการให้คำแนะนำอะไรซักอย่างฝ่ายนั้นไป และที่เราได้ยินชัดๆคือ "ไม่สะดวกครับ" สรุปรวมๆเค้าคุยสายกันต่อหน้าเราประมาณ3นาทีได้ค่ะ
พอวางสายไปแล้ว แฟนเรารีบบอกเลยว่า "อ๋อออ แม่ค้าร้านนั้นไง" เราก็งง ร้านไหนวะ ทำไมต้องโทรไลน์ และคุยดูสนิทสนม จนเค้ามีอาการตกใจมากๆ แต่ว่าก็ยังพิมพ์ไลน์ต่อหน้าเราต่อนะคะ เราก็กลั้นใจรอนะ เพราะรู้สึกว่าแปลกมากๆและ จะรอให้คุยให้จบแล้วถามให้รู้เรื่อง สรุปคือ เค้าก็หันมาเล่าว่า "มีแม่ค้าร้านใกล้ๆกันกับที่แฟนของเราไปขาย เค้ามาคุยกับแฟนเรา เหมือนระบายให้ฟังว่าจะเลิกกับแฟนของตัวเอง อยากให้แฟนเราช่วยบอกเลิกฝ่ายชายให้หน่อย" พอเราได้ยินแบบนี้ เรารู้สึกเลยว่า "เฮ้ย อ่อยกันนี่หว่า" เราก็ดูอาการแฟนค่ะ แฟนเค้าก็อื่นแท็บเล็ตมาให้อ่าน ซึ่งก็จริงอย่างที่แฟนเราเล่าค่ะ (เราสังเกตุแบบเร็วมาก ดูผ่านๆก็รู้ว่า มีข้อความที่แฟนเราแอบลบข้อความที่ตัวเองพิมพ์ไปประมาณ5-6ประโยคได้ค่ะ เพราะเนื้อหามันแบบว่า อยู่ๆผู้หญิงก็พิมพ์ตอบมา ทั้งๆที่ไม่มีประโยคคำถาม ) ประโยคที่เราอ่านเจอของฝั่งแฟนเราก็คือ "ไม่สะดวกคุยให้นะครับ" (หมายถึงแฟนเราจะไม่เคลียร์เรื่องผู้ชายให้กับผู้หญิงคนนี้) "ผมมีแฟนแล้วครับ และรักแฟนมากด้วย อยากแสดงความบริสุทธิ์ใจครับ" ทางนู้นก็เรียกแฟนเราว่า "เตงง" ทุกคำนะ เค้าก็ตอบกลับมาประมาณว่า "บอกแฟนเลยเตง ว่าเราเพื่อนกัน" "อ่อ ไม่ต้องเคลียร์ให้เราแล้วนะ เดี๋ยวเราคุยกับมัน(แฟนของผู้หญิงคนนั้น)เอง" ที่เราจำได้ก็ประมาณนี้ค่ะ แต่ความรู้สึกเราไปแล้วไง คือ...แฟนเราเปิดโอกาสให้ผู้หญิงอื่นเข้ามาใกล้ชิดด้วยทำไม เราเกิดคำถามสงสัยไปหมด ทั้งๆที่แฟนเราเป็นคนขี้อายมาก แค่จะสั่งอาหาร ยังเขินจนกว่าจะสั่งได้ก็ปวดท้องหิวข้าวไปหมด เวลาขายของ เค้าก็เขิน แทบจะไม่กล้าเรียกลูกค้า ไม่กล้าคุยกับใครเท่าไหร่เลย นอกจากเพื่อนๆของเค้าเอง แต่เค้ากลับคุยกับผู้หญิงคนนี้แบบ...เราคิดว่าไม่เหมาะ คือเค้าเองเค้าก็ยังยอมรับเลยว่า พอจะรู้สึกแหละ ว่าผู้หญิงอ่อย
ขอกลับมาเล่าเหตุการณ์ตอนนั้นต่อนะคะ พอเค้าบล๊อคต่อหน้าเราเลยปุ๊บ หลังจากวางสายได้ไม่เกิน5นาทีและยื่นให้เราอ่าน ไม่พอค่ะ รีบลบแอคเคาต์ผู้หญิงคนนั้นทิ้งเลยค่ะ คือเราไม่พอใจอย่างมาก รู้สึกเลยว่า เค้าส่งซิกให้ผู้หญิงคนนั้นรู้ว่าเรายืนอ่านไลน์และยืนฟังอยู่ด้วยกันนะ แถมทำมาเป็นบอกว่ารักเรามาก อยากแสดงความบริสุทธิ์ใจ ทั้งๆที่เราไม่ได้ถามและไม่มีอาการโกรธอะไรเค้าเลยซักนิดนะคะ เรามาปรี๊ดทีเดียวหลังจากที่เค้าแสดงอาการตกใจ บล๊อคและลบไลน์ค่ะ
เราโกรธมาก แต่งตัวออกจากบ้านทันที เค้าก็ตามมานะคะ โดยไม่ได้เอารถไปค่ะ เค้ารีบตามเราขึ้นแท็กซี่ จนไปถึงห้างๆนึงแถวบ้าน เราเลยทำเป็นคุยด้วย แต่ยังเสียใจมาก โกรธมาก และที่แน่ๆตอนนั้นเราไม่พร้อมคุย เราก็หาจังหวะให้เค้าซื้อของให้ พอเค้าลุกไปซื้อของกินให้เรา เราก็หนีออกมาเลยจากห้างนั้น ไปอยู่อีกห้างนึงแทน โดยเค้าก็พยายามติดต่อเราตลอด ให้เพื่อนเราพยายามติดต่อเราบ้าง โดยเป็นเพื่อนสนิทเราทั้งหมด เราก็เลือกรับสายเป็นบางคนค่ะ เราอยากจะไปให้ไกล เราเสียใจ เรารู้สึกเหนื่อยล้า เราวางแผนครอบครัว วางแผนทุกอย่างเพื่อชีวิตคู่กับเค้ามาตลอด ไม่เคยนอกใจ ทุกอย่างเราทำเพื่อพ่อของเรากับเค้าเท่านั้น เค้าก็รับรู้ดี แต่เค้ามักจะชอบแสดงอาการไม่ภูมิใจในตัวเองให้เราเห็นได้หลายครั้ง เพราะธุรกิจที่ทำอยู่ เราเป็นคนริเริ่ม เราเหมือนเป็นผู้สร้างมันเป็นส่วนใหญ่ แต่เรามั่นใจว่า เราไม่เคยแสดงอาการดูถูกอะไรเค้าเลย เพราะเราก็ไม่เคยคิดเช่นนั้นเลยซักครั้ง เรารู้สึกขอบคุณเค้าที่เค้าเลือกเรา เลือกทำงานกับเรา และเราก็ภูมิใจในตัวเค้ามาตลอด โดยที่เราและแฟนต่างก็มีจุดเด่นและจุดอ่อนในเรื่องงานและชีวิตคู่พอๆกัน เรามองว่า ก็ไม่ได้มีใครเอาเปรียบใครเลยซักนิด
ประเด็นคือ พอเราออกมาได้ซัก5ชม. เราก็กังวลว่าพ่อเราจะเป็นห่วงไม๊ จะรู้รึเปล่าว่าทะเลาะกัน แม่แฟนจะเครียดไปด้ววไม๊ สุดท้ายเราต้องกลับไปค่ะ คือ...เรียกว่า ตอนนั้นเรารู้สึกไร้ค่ามาก เพราะเรารู้สึกเหมือนถูกเค้ากำลังอยากจะลองนอกใจ อยากทำความรู้จักกับผู้หญิงอื่นในเชิงจีบกัน แต่เรากลับต้องกลับบ้านไปบ้านของเรา ที่มีเค้าอยู่ แม้ว่าเค้าจะรอขอโทษและอธิบายก็ตาม สรุปก็คือ...เราก็ให้อภัย ทำเหมือนว่าจะลืมมันไป แต่แสดงออกชัดเจนว่าสิ่งที่เธอทำมันผิดนะ และเราก็ไม่เชื่อ ว่าเธอจะไม่ได้คิดอะไรเลย
โดยจริงๆแล้ว แฟนเราเค้านิสัยดี น่ารัก เข้ากับคนที่บ้านเราได้ทุกคน และแสดงออกว่ารักเราเสมอมานะคะ ใจดีกับเรา ขออะไรก็ทำให้ อยากไปไหนเวลาเราจะคิดงาน เค้าก็พาไป เรารักและผูกพันกับแฟนเรามาก เพราะเค้าเหมือนจะเป็นรักแรกของเรา (เรามีแฟนมาเยอะมากค่ะ ตั้งแต่เด็ก แต่ไม่เคยเกินเลยเลยไงคะ มีคนนี้ที่มาถึงก็จดทะเบียนสมรสและทำงานร่วมกันเลย)
แต่ความเป็นจริง เรื่องผู้หญิงนี่เคยเกิดขึ้นมาก่อนค่ะ ยุคที่ไลน์และเฟสบุ๊คไม่ได้บูมขนาดนี้ ก็คือซัก4-5ปีที่แล้ว ตอนที่คบกันปีแรกๆ เค้าเคยรับ-ส่งอีเมล์ไปหาสาวฝรั่งๆ (ซึ่งเรามั่นใจทันทีที่เจอจดหมายครั้งแรกว่าเค้ารู้อยู่แก่ใจ ว่าคือจดหมายแนวจะหลอกให้โอนเงินไปให้) แต่คำพูดของเค้า มันเหมือนจะไม่สนใจเรื่องนั้นเลย ฝรั่งผู้หญิงก็ส่งข้อความในเมล์มาเหมือนเป็นสคริปต์ที่ก๊อปๆมา โดยบอกรักแฟนเรา อยากเจอ อะไรทำนองนี้ และอยากเจอหน้าแฟนเรามาก แฟนเราก็ตอบเค้าไปทำนองว่า "อยากให้มาเป็นคู่ชีวิต บ้านเค้ามีขนาดเท่าไหร่ มีพี่น้องกี่คน อาศัยอยู่กับใครบ้าง มีสัตว์เลี้ยงอะไรบ้าง แถมยังบอกอีกว่าที่บ้านแฟนเราใจดีทุกคน เค้าพร้อมที่จะใช้ชีวิตด้วยกัน ก็บินมาเมืองไทยนะ" คือเราโคตรเจ็บเลยตอนนั้น ขอร้องให้เล่ามา ว่าอะไรคืออะไร เค้นให้พูดความจริงก็แล้ว เค้าก็เถียงหัวชนฝาว่าเมล์โดนแฮ็ก เราก็เถียงเค้านะ คนแฮ็กมันก็ไม่แฮ็กมั่วไม๊ มันก็ต้องมีเป้าหมายบ้าง จะมาเอาข้อมูลอะไรกับคนที่พึ่งเรียนจบ แถมแฮ็กเพื่อส่งจดหมายรักมาหาเนี่ยนะ (คือแฟนเราโกหกว่า ทุกข้อความ ที่ตอบกลับ แฟนเราไม่ได้พิมพ์ ส่วนข้อมูลของแฟนเรา ว่าครอบครัวเป็นยังไง แฟนเราอ้างว่า เป็นเพราะเคยกรอกตามเว็บต่างๆตอนสมัครสมาชิก ซึ่งเราก็เถียงว่า กรอกจนรู้ว่าบ้านมีกี่ห้อง รอบบ้านมีอะไรเลยหรอ" ก็...เหตุการณ์นั้นก็ใช้เวลาประมาณ2-3เดือน กว่าจะยอมรับว่าทำเอง แต่เค้าบอกเราว่า "รู้อยู่แล้วว่าพวกนี้หน้าเงิน เลยอยากจะแก้เผ็ดให้เสียเวลาตอบไปมาเล่นๆ" ซึ่งก็นั่นแหละค่ะ เราไม่เชื่อเลย...และเราก็ไม่รู้ด้วย ว่าการที่ไม่เชื่อใจเค้ามันผิดไม๊ ก็คนมันไม่เชื่อ แต่เราให้อภัยค่ะ ก็ดีกัน ไม่ได้โกรธเค้าตั้งแต่แรก เพียงแต่คอยตามถามเค้าทุกๆสัปดาห์ ว่าให้พูดความจริงกับเราเถอะนะ
และอีกเหตุการณ์หลังจากเหตุการณ์อีเมล์ ซักประมาณ3เดือน (หลังจากที่ยอมรับว่าพิมพ์เองหยกๆ) เราก็มีเรื่องทะเลาะกันเรื่อยๆค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องงานนะคะ และเป็นเรื่องเวลารับโทรศัพท์ ติดต่อลำบากค่ะ (เราและแฟนติดคุยโทรศัพท์กันมากค่ะช่วง1-3ปีแรก โดยเค้าขอคุยกับเราตลอดเวลาเอง และเราก็มีโปรโมชั่นมือถือ โทรหาค่ายเดียวกันฟรีตลอด24ชม. โดยไม่ต้องวางสายด้วยค่ะ โดยมีช่วงนึงเราโทรศัพท์เสีย เค้าก็ไปซื้อเครื่องละ400฿มาให้ แล้วโม้ว่าพ่อเค้าให้มาใช้ฟรี ยุคนั้นก่อนมีBB หรือกำลังบูมนี่แหละค่ะ แต่เราก็ไม่ได้ใช้ค่ะ ใช้มือถือราคาหลักร้อยมาตลอด จนกระทั่ง1ปีกว่าๆที่ผ่านมาค่ะ)
เรื่องไม่รับสาย ทำให้เราต้องทะเลาะกันตลอด เพราะมันเกี่ยวข้องกับงานด้วยค่ะ และเราก็คิดถึงเค้าด้วยจริงๆเหมือนกัน จนวันนึง เค้าได้ไปทำงานพิเศษครั้งแรกๆ หลังจากเรียนจบ เค้าไปเจอผู้หญิงคนนึง ที่คุยเก่ง ดูเฟรนด์ลี่ เค้าก็ไปคุยเฟสเล่นกันตลอด ซึ่งผู้หญิงคนนั้นก็กำลังจะเลิกกับแฟน (ขอย้ำเรื่องนึงค่ะ แฟนเราเป็นคนขี้อายมาก พอมีคนมาใกล้ เราแทบจะไม่ต้องใช้เซ๊นส์อะไรมากเท่าไหร่ ก็พอจะดูออก หรือรู้สึกสงสัยได้ในทันที) เค้ายืนยันว่าเป็นแค่เพื่อน เราขอให้เค้าไปทำงานอื่น (ตอนนั้นยังไม่ได้มาช่วยเราขายของค่ะ) เค้าบอกว่า เค้าจะทำงานฟรีแลนซ์นี้ให้จบ ซึ่งเราไม่ได้ไม่มีเหตุผลมากเกินไปนะคะ งานนี้ คนในครอบครัวแท้ๆของเรารับแฟนเราไปทำเอง เรารู้ว่าเค้าหาคนทำงานแทนแฟนเราได้ไม่ยาก แต่เรารู้สึกไม่สบายใจมาก เพราะพึ่งมีเรื่องอีเมล์ แฟนเราก็บอกว่าไม่อยากให้ประวัติทิ้งงาน ตั้งแต่ครั้งแรกๆค่ะ
เดี๋ยวมาเล่าและขอคำปรึกษาต่อนะคะ
อยากรู้ว่าควรตัดสินใจอย่างไร เมื่อรู้ว่าแฟนมีแนวโน้มจะนอกใจค่ะ (เจ็บเหลือเกิน) รบกวนขอคำแนะนำด้วยนะคะ
เราและแฟนเป็นเพื่อนสมัยเรียนด้วยกันมาก่อน ปัจจุบันก็วัยจะ30แล้วล่ะค่ะ ตัดสินใจคบกันมา6ปีแล้ว ทำงานร่วมกัน เรียกว่าเจอหน้ากันแทบจะ24ชม.มาตลอด1-2ปี (ก่อนหน้านี้ไม่ได้พักด้วยกันค่ะ แยกกันอยู่ที่บ้านครอบครัวของตัวเอง) แต่ตอนนี้ งานเติบโตสูงมาก (เราทำอาชีพค้าขายด้วยกันค่ะ) ลงขายวันละหลายๆที่ หลายๆสาขา แทบจะไม่ได้จ้างใคร เพราะพึ่งจะเริ่มขยายตัว เลยต้องวางระบบเองก่อน วันๆนึงจึงทำงานวันละประมาณ 16-22ชม.กันทั้งคู่ สลับมากบ้าง น้อยบ้าง จะได้พักผ่อนเต็มที่ก็ทุกๆ5-8วัน ทำให้ทางบ้านของเรายอมให้เค้าสามารถมาพักอยู่ด้วยได้ โดยที่ไม่ได้อยู่ในห้องส่วนตัวนะคะ นอนในห้องรับแขก โดยเราก็ลงมานอนที่โซฟา และแฟนนอนที่เก้าอี้พับยาวๆ เรียกว่าเราอยากให้ทางบ้านสบายใจค่ะ เพราะห้องรับแขกมีป้านอนอยู่ด้วยเหมือนกัน เราไม่อยากให้รู้สึกว่า เรานอนห้องส่วนตัวของเรา แล้วแฟนจะย่องเข้าหาเมื่อไหร่ก็ได้ เราจึงตัดสินใจนอนในที่สาธารณะของบ้าน โดยมีระยะจุดนอนห่างกันประมาณ3-5เมตรค่ะ
ฟังแล้วดูเหมือนว่าทุกอย่างก็อยู่ในขอบเขตดีค่ะ แต่จริงๆแล้วก็มีเรื่องที่เราไม่สบายใจแต่ก็ไม่ได้ถึงกับเป็นทุกข์มากค่ะ นั่นก็คือ จริงๆแล้วเราจดทะเบียนสมรสกับแฟนมานานถึง5ปีแล้วค่ะ ซึ่งวันนี้ก็เป็นวันครบรอบพอดี เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราปิดบังทุกคนไว้ และก็รู้สึกเสียใจมาจนถึงทุกวันนี้ เรื่องนี้เอง ทำให้เราคิดเหมือนกันว่า อาจจะมีส่วนทำให้แฟนเห็นคุณค่าของเราน้อยกว่าที่คู่สมรสทั่วไปควรจะรู้สึกต่อกัน เนื่องจากเราทั้งคู่ ชวนกันจนทะเบียนสมรสกันเอง ตั้งแต่ปีแรกที่คบกัน หลังจากจดทะเบียน เราก็เริ่มทำงานร่วมกันมาตลอด นั่นก็คือค้าขาย พึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากก็ประมาณ20เดือนที่ผ่านมาค่ะ โดยเงินทั้งหมด แฟนให้เราเป็นคนช่วยดูแล เค้ามีเงินติดตัวทั้งหมด ทั้งเงินสดและในบัญชีเงินฝากแค่ประมาณ5หมื่นบาท ในขณะที่เรามีบัญชีประมาณ7บัญชีธนาคาร ก็มีเงินหมุนเข้า-ออกตลอดเวลา เรียกได้ว่าเค้าไว้ใจเราเป็นอย่างมากค่ะ และเราก็ไม่เคยมีประวัติแอบไปใช้อะไรส่วนตัวหรือไม่ขอเลย เพราะยังไงเราก็อยู่ด้วยกันแทบจะตลอด24ชม.อยู่แล้ว จะใช้อะไรก็รู้กันหมด (แต่เราก็แอบรู้มาว่าเค้ามีแอบเก็บๆไว้ส่วนตัวประมาณหลักพันค่ะ เนื่องจากเราเป็นคนทำบัญชีละเอียดเสมอ ซึ่งเงินก้อนนั้น เค้าก็ไม่เคยเอาไปทำอะไรไม่ดีให้เราจับได้หรือรับรู้เลยนะคะ จะมีก็แต่ เค้าอยากซื้อลำโพงเล็กๆซักอัน หรืออยากซื้ออะไรโดยที่ไม่ต้องขอเราบ่อยๆ) เรื่องที่เค้าให้เราดูแลเรื่องเงิน เราก็รู้สึกดีใจมาตลอดนะคะ เพราะรู้สึกว่าเค้าให้เกียรติเราดี เราก็พยายามบริหารเงินให้ดีที่สุด ควบคุมค่าใช้จ่ายต่างๆ ชำระค่าใช้บริการรายเดือนของเราในทุกๆเรื่อง ไม่ว่าจะรถ ประกัน ให้พ่อของเรา ให้แม่ของแฟน ซื้อสินค้า จองบูธขายของ เราพยายามทำเองหมด โดยเค้าจะเป็นฝ่ายช่วยขายของเป็นหลัก ส่วนเรามีหน้าที่ไปช่วยขายเหมือนกัน เพราะเราเป็นผู้ริเริ่มการขายของมาก่อนเค้าค่ะ แล้วก็ช่วยหาที่ขาย ช่วยเตือนความจำว่าต้องติดต่อใคร ที่ไหน อย่างไรบ้าง เราแบ่งหน้าที่กันได้ค่อนข้างโอเคค่ะ เราทั้งคู่ต่างพอใจกับหน้าที่ของเราค่ะ
ปัญหาที่เกิดขึ้น และเรารู้สึกแย่กับมันมากๆก็คือ เมื่อประมาณ4เดือนที่แล้ว อยู่ๆก็มี มีผู้หญิงโทรไลน์เข้ามาที่เครื่องของแฟนค่ะ ซึ่งเรากับแฟนเราโทรศัพท์ของอีกฝ่ายได้เสมอ เพราะทุกเบอร์ที่มี เอาไว้ติดต่องานหมดเลยค่ะ เราก็เลยเป็นคนกดรับ และแปลกใจมาก เพราะไม่เคยมีใครโทรไลน์หาแฟนเราเลยซักครั้ง ตั้งแต่คบกันมา พอเรารับปุ๊บ เค้าก็คุยๆด้วยประมาณ2ประโยคค่ะ (เราจำไม่ค่อยได้ แต่ก็ประมาณว่า เรียกชื่อแฟนเราเนี่ยแหละค่ะ) เราบอกว่า "รอซักครู่นะคะ" และส่งให้แฟน แฟนเราตกใจมากเลย แถมรีบบอกว่า "แฟนรับน่ะ" แล้วก็ทำเหมือนใจดีสู้เสือนะคะ ทำเป็นคุยๆด้วย และมีการให้คำแนะนำอะไรซักอย่างฝ่ายนั้นไป และที่เราได้ยินชัดๆคือ "ไม่สะดวกครับ" สรุปรวมๆเค้าคุยสายกันต่อหน้าเราประมาณ3นาทีได้ค่ะ
พอวางสายไปแล้ว แฟนเรารีบบอกเลยว่า "อ๋อออ แม่ค้าร้านนั้นไง" เราก็งง ร้านไหนวะ ทำไมต้องโทรไลน์ และคุยดูสนิทสนม จนเค้ามีอาการตกใจมากๆ แต่ว่าก็ยังพิมพ์ไลน์ต่อหน้าเราต่อนะคะ เราก็กลั้นใจรอนะ เพราะรู้สึกว่าแปลกมากๆและ จะรอให้คุยให้จบแล้วถามให้รู้เรื่อง สรุปคือ เค้าก็หันมาเล่าว่า "มีแม่ค้าร้านใกล้ๆกันกับที่แฟนของเราไปขาย เค้ามาคุยกับแฟนเรา เหมือนระบายให้ฟังว่าจะเลิกกับแฟนของตัวเอง อยากให้แฟนเราช่วยบอกเลิกฝ่ายชายให้หน่อย" พอเราได้ยินแบบนี้ เรารู้สึกเลยว่า "เฮ้ย อ่อยกันนี่หว่า" เราก็ดูอาการแฟนค่ะ แฟนเค้าก็อื่นแท็บเล็ตมาให้อ่าน ซึ่งก็จริงอย่างที่แฟนเราเล่าค่ะ (เราสังเกตุแบบเร็วมาก ดูผ่านๆก็รู้ว่า มีข้อความที่แฟนเราแอบลบข้อความที่ตัวเองพิมพ์ไปประมาณ5-6ประโยคได้ค่ะ เพราะเนื้อหามันแบบว่า อยู่ๆผู้หญิงก็พิมพ์ตอบมา ทั้งๆที่ไม่มีประโยคคำถาม ) ประโยคที่เราอ่านเจอของฝั่งแฟนเราก็คือ "ไม่สะดวกคุยให้นะครับ" (หมายถึงแฟนเราจะไม่เคลียร์เรื่องผู้ชายให้กับผู้หญิงคนนี้) "ผมมีแฟนแล้วครับ และรักแฟนมากด้วย อยากแสดงความบริสุทธิ์ใจครับ" ทางนู้นก็เรียกแฟนเราว่า "เตงง" ทุกคำนะ เค้าก็ตอบกลับมาประมาณว่า "บอกแฟนเลยเตง ว่าเราเพื่อนกัน" "อ่อ ไม่ต้องเคลียร์ให้เราแล้วนะ เดี๋ยวเราคุยกับมัน(แฟนของผู้หญิงคนนั้น)เอง" ที่เราจำได้ก็ประมาณนี้ค่ะ แต่ความรู้สึกเราไปแล้วไง คือ...แฟนเราเปิดโอกาสให้ผู้หญิงอื่นเข้ามาใกล้ชิดด้วยทำไม เราเกิดคำถามสงสัยไปหมด ทั้งๆที่แฟนเราเป็นคนขี้อายมาก แค่จะสั่งอาหาร ยังเขินจนกว่าจะสั่งได้ก็ปวดท้องหิวข้าวไปหมด เวลาขายของ เค้าก็เขิน แทบจะไม่กล้าเรียกลูกค้า ไม่กล้าคุยกับใครเท่าไหร่เลย นอกจากเพื่อนๆของเค้าเอง แต่เค้ากลับคุยกับผู้หญิงคนนี้แบบ...เราคิดว่าไม่เหมาะ คือเค้าเองเค้าก็ยังยอมรับเลยว่า พอจะรู้สึกแหละ ว่าผู้หญิงอ่อย
ขอกลับมาเล่าเหตุการณ์ตอนนั้นต่อนะคะ พอเค้าบล๊อคต่อหน้าเราเลยปุ๊บ หลังจากวางสายได้ไม่เกิน5นาทีและยื่นให้เราอ่าน ไม่พอค่ะ รีบลบแอคเคาต์ผู้หญิงคนนั้นทิ้งเลยค่ะ คือเราไม่พอใจอย่างมาก รู้สึกเลยว่า เค้าส่งซิกให้ผู้หญิงคนนั้นรู้ว่าเรายืนอ่านไลน์และยืนฟังอยู่ด้วยกันนะ แถมทำมาเป็นบอกว่ารักเรามาก อยากแสดงความบริสุทธิ์ใจ ทั้งๆที่เราไม่ได้ถามและไม่มีอาการโกรธอะไรเค้าเลยซักนิดนะคะ เรามาปรี๊ดทีเดียวหลังจากที่เค้าแสดงอาการตกใจ บล๊อคและลบไลน์ค่ะ
เราโกรธมาก แต่งตัวออกจากบ้านทันที เค้าก็ตามมานะคะ โดยไม่ได้เอารถไปค่ะ เค้ารีบตามเราขึ้นแท็กซี่ จนไปถึงห้างๆนึงแถวบ้าน เราเลยทำเป็นคุยด้วย แต่ยังเสียใจมาก โกรธมาก และที่แน่ๆตอนนั้นเราไม่พร้อมคุย เราก็หาจังหวะให้เค้าซื้อของให้ พอเค้าลุกไปซื้อของกินให้เรา เราก็หนีออกมาเลยจากห้างนั้น ไปอยู่อีกห้างนึงแทน โดยเค้าก็พยายามติดต่อเราตลอด ให้เพื่อนเราพยายามติดต่อเราบ้าง โดยเป็นเพื่อนสนิทเราทั้งหมด เราก็เลือกรับสายเป็นบางคนค่ะ เราอยากจะไปให้ไกล เราเสียใจ เรารู้สึกเหนื่อยล้า เราวางแผนครอบครัว วางแผนทุกอย่างเพื่อชีวิตคู่กับเค้ามาตลอด ไม่เคยนอกใจ ทุกอย่างเราทำเพื่อพ่อของเรากับเค้าเท่านั้น เค้าก็รับรู้ดี แต่เค้ามักจะชอบแสดงอาการไม่ภูมิใจในตัวเองให้เราเห็นได้หลายครั้ง เพราะธุรกิจที่ทำอยู่ เราเป็นคนริเริ่ม เราเหมือนเป็นผู้สร้างมันเป็นส่วนใหญ่ แต่เรามั่นใจว่า เราไม่เคยแสดงอาการดูถูกอะไรเค้าเลย เพราะเราก็ไม่เคยคิดเช่นนั้นเลยซักครั้ง เรารู้สึกขอบคุณเค้าที่เค้าเลือกเรา เลือกทำงานกับเรา และเราก็ภูมิใจในตัวเค้ามาตลอด โดยที่เราและแฟนต่างก็มีจุดเด่นและจุดอ่อนในเรื่องงานและชีวิตคู่พอๆกัน เรามองว่า ก็ไม่ได้มีใครเอาเปรียบใครเลยซักนิด
ประเด็นคือ พอเราออกมาได้ซัก5ชม. เราก็กังวลว่าพ่อเราจะเป็นห่วงไม๊ จะรู้รึเปล่าว่าทะเลาะกัน แม่แฟนจะเครียดไปด้ววไม๊ สุดท้ายเราต้องกลับไปค่ะ คือ...เรียกว่า ตอนนั้นเรารู้สึกไร้ค่ามาก เพราะเรารู้สึกเหมือนถูกเค้ากำลังอยากจะลองนอกใจ อยากทำความรู้จักกับผู้หญิงอื่นในเชิงจีบกัน แต่เรากลับต้องกลับบ้านไปบ้านของเรา ที่มีเค้าอยู่ แม้ว่าเค้าจะรอขอโทษและอธิบายก็ตาม สรุปก็คือ...เราก็ให้อภัย ทำเหมือนว่าจะลืมมันไป แต่แสดงออกชัดเจนว่าสิ่งที่เธอทำมันผิดนะ และเราก็ไม่เชื่อ ว่าเธอจะไม่ได้คิดอะไรเลย
โดยจริงๆแล้ว แฟนเราเค้านิสัยดี น่ารัก เข้ากับคนที่บ้านเราได้ทุกคน และแสดงออกว่ารักเราเสมอมานะคะ ใจดีกับเรา ขออะไรก็ทำให้ อยากไปไหนเวลาเราจะคิดงาน เค้าก็พาไป เรารักและผูกพันกับแฟนเรามาก เพราะเค้าเหมือนจะเป็นรักแรกของเรา (เรามีแฟนมาเยอะมากค่ะ ตั้งแต่เด็ก แต่ไม่เคยเกินเลยเลยไงคะ มีคนนี้ที่มาถึงก็จดทะเบียนสมรสและทำงานร่วมกันเลย)
แต่ความเป็นจริง เรื่องผู้หญิงนี่เคยเกิดขึ้นมาก่อนค่ะ ยุคที่ไลน์และเฟสบุ๊คไม่ได้บูมขนาดนี้ ก็คือซัก4-5ปีที่แล้ว ตอนที่คบกันปีแรกๆ เค้าเคยรับ-ส่งอีเมล์ไปหาสาวฝรั่งๆ (ซึ่งเรามั่นใจทันทีที่เจอจดหมายครั้งแรกว่าเค้ารู้อยู่แก่ใจ ว่าคือจดหมายแนวจะหลอกให้โอนเงินไปให้) แต่คำพูดของเค้า มันเหมือนจะไม่สนใจเรื่องนั้นเลย ฝรั่งผู้หญิงก็ส่งข้อความในเมล์มาเหมือนเป็นสคริปต์ที่ก๊อปๆมา โดยบอกรักแฟนเรา อยากเจอ อะไรทำนองนี้ และอยากเจอหน้าแฟนเรามาก แฟนเราก็ตอบเค้าไปทำนองว่า "อยากให้มาเป็นคู่ชีวิต บ้านเค้ามีขนาดเท่าไหร่ มีพี่น้องกี่คน อาศัยอยู่กับใครบ้าง มีสัตว์เลี้ยงอะไรบ้าง แถมยังบอกอีกว่าที่บ้านแฟนเราใจดีทุกคน เค้าพร้อมที่จะใช้ชีวิตด้วยกัน ก็บินมาเมืองไทยนะ" คือเราโคตรเจ็บเลยตอนนั้น ขอร้องให้เล่ามา ว่าอะไรคืออะไร เค้นให้พูดความจริงก็แล้ว เค้าก็เถียงหัวชนฝาว่าเมล์โดนแฮ็ก เราก็เถียงเค้านะ คนแฮ็กมันก็ไม่แฮ็กมั่วไม๊ มันก็ต้องมีเป้าหมายบ้าง จะมาเอาข้อมูลอะไรกับคนที่พึ่งเรียนจบ แถมแฮ็กเพื่อส่งจดหมายรักมาหาเนี่ยนะ (คือแฟนเราโกหกว่า ทุกข้อความ ที่ตอบกลับ แฟนเราไม่ได้พิมพ์ ส่วนข้อมูลของแฟนเรา ว่าครอบครัวเป็นยังไง แฟนเราอ้างว่า เป็นเพราะเคยกรอกตามเว็บต่างๆตอนสมัครสมาชิก ซึ่งเราก็เถียงว่า กรอกจนรู้ว่าบ้านมีกี่ห้อง รอบบ้านมีอะไรเลยหรอ" ก็...เหตุการณ์นั้นก็ใช้เวลาประมาณ2-3เดือน กว่าจะยอมรับว่าทำเอง แต่เค้าบอกเราว่า "รู้อยู่แล้วว่าพวกนี้หน้าเงิน เลยอยากจะแก้เผ็ดให้เสียเวลาตอบไปมาเล่นๆ" ซึ่งก็นั่นแหละค่ะ เราไม่เชื่อเลย...และเราก็ไม่รู้ด้วย ว่าการที่ไม่เชื่อใจเค้ามันผิดไม๊ ก็คนมันไม่เชื่อ แต่เราให้อภัยค่ะ ก็ดีกัน ไม่ได้โกรธเค้าตั้งแต่แรก เพียงแต่คอยตามถามเค้าทุกๆสัปดาห์ ว่าให้พูดความจริงกับเราเถอะนะ
และอีกเหตุการณ์หลังจากเหตุการณ์อีเมล์ ซักประมาณ3เดือน (หลังจากที่ยอมรับว่าพิมพ์เองหยกๆ) เราก็มีเรื่องทะเลาะกันเรื่อยๆค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องงานนะคะ และเป็นเรื่องเวลารับโทรศัพท์ ติดต่อลำบากค่ะ (เราและแฟนติดคุยโทรศัพท์กันมากค่ะช่วง1-3ปีแรก โดยเค้าขอคุยกับเราตลอดเวลาเอง และเราก็มีโปรโมชั่นมือถือ โทรหาค่ายเดียวกันฟรีตลอด24ชม. โดยไม่ต้องวางสายด้วยค่ะ โดยมีช่วงนึงเราโทรศัพท์เสีย เค้าก็ไปซื้อเครื่องละ400฿มาให้ แล้วโม้ว่าพ่อเค้าให้มาใช้ฟรี ยุคนั้นก่อนมีBB หรือกำลังบูมนี่แหละค่ะ แต่เราก็ไม่ได้ใช้ค่ะ ใช้มือถือราคาหลักร้อยมาตลอด จนกระทั่ง1ปีกว่าๆที่ผ่านมาค่ะ)
เรื่องไม่รับสาย ทำให้เราต้องทะเลาะกันตลอด เพราะมันเกี่ยวข้องกับงานด้วยค่ะ และเราก็คิดถึงเค้าด้วยจริงๆเหมือนกัน จนวันนึง เค้าได้ไปทำงานพิเศษครั้งแรกๆ หลังจากเรียนจบ เค้าไปเจอผู้หญิงคนนึง ที่คุยเก่ง ดูเฟรนด์ลี่ เค้าก็ไปคุยเฟสเล่นกันตลอด ซึ่งผู้หญิงคนนั้นก็กำลังจะเลิกกับแฟน (ขอย้ำเรื่องนึงค่ะ แฟนเราเป็นคนขี้อายมาก พอมีคนมาใกล้ เราแทบจะไม่ต้องใช้เซ๊นส์อะไรมากเท่าไหร่ ก็พอจะดูออก หรือรู้สึกสงสัยได้ในทันที) เค้ายืนยันว่าเป็นแค่เพื่อน เราขอให้เค้าไปทำงานอื่น (ตอนนั้นยังไม่ได้มาช่วยเราขายของค่ะ) เค้าบอกว่า เค้าจะทำงานฟรีแลนซ์นี้ให้จบ ซึ่งเราไม่ได้ไม่มีเหตุผลมากเกินไปนะคะ งานนี้ คนในครอบครัวแท้ๆของเรารับแฟนเราไปทำเอง เรารู้ว่าเค้าหาคนทำงานแทนแฟนเราได้ไม่ยาก แต่เรารู้สึกไม่สบายใจมาก เพราะพึ่งมีเรื่องอีเมล์ แฟนเราก็บอกว่าไม่อยากให้ประวัติทิ้งงาน ตั้งแต่ครั้งแรกๆค่ะ
เดี๋ยวมาเล่าและขอคำปรึกษาต่อนะคะ